muaytoday LINE : @mtdfc
muaytoday
วันที่ 29 มีนาคม 2024 3:06 AM
muaytoday
muaytoday
หน้าหลัก » ข่าวมวย » สามารถ พยัคฆ์อรุณ หนึ่งในนักมวยไทยที่เก่งที่สุด ยอดฝีมือชกสนุกเป็นเอกลักษณ์

สามารถ พยัคฆ์อรุณ หนึ่งในนักมวยไทยที่เก่งที่สุด ยอดฝีมือชกสนุกเป็นเอกลักษณ์

อัพเดทวันที่ 30 สิงหาคม 2021 เข้าดู 459 ครั้ง

สามารถ พยัคฆ์อรุณ หนึ่งนักมวยไทยที่เก่งที่สุดนักมวยไทยต้องยอมรับจริงๆว่าใครที่ได้ชื่อนี้ต้องถือว่าเป็นอีกหนึ่งยอดนักชกของคนไทยที่หลายคนนั้นยังคงจดจำกันได้ดี ซึ่งต้องยอมรับว่ามวยไทย เป็นเอกลักษณ์ที่ยากมากจะเรียนแบบไม่ว่าทางการออกหมัดการเตะต่อย นี่คือเสน่ห์ของมวยไทยที่ทั่วโลกนั้นรับรู้เป็นอย่างดีว่า เป็นความสามารถเฉพาะตัว จนทั่วโลกนั้นได้มีการขนานนามว่าเป็น “ศาสตร์แห่งอาวุธทั้งแปด” ก็คือการต่อสู้ด้วยมือเปล่า  โดยที่มีอวัยวะทั่วร่างกายเป็นอาวุธ ทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก เป็นกีฬาและศิลปะป้องกัน ตัวประจำชาติไทย ซึ่งปัจจุบันมีผู้นิยมฝึกมวยไทยเป็นจำนวนมาก ด้วยหลากหลายเหตุผลแตกต่างกันออกไป และประเทศไทยเองก็ถือเป็นต้นกำเนิด ของศาสตร์การต่อสู้แขนงนี้

สามารถ พยัคฆ์อรุณ

โดยจะเห็นได้ว่าและไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม นักมวยที่อยู่ในประเทศไทยถึงได้ ฝีมือสุดยอดที่สุดแน่นอนว่า ต้นกำเนิดนั้นมาจากกประเทศไทยนั่นเอง แน่นอนว่าต้นกำเนิดนั้นนักมวยไทยที่เก่งกาจ และทั่วโลกยอมรับ และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติคงหนีไม่พ้นคนแรกต้องยกให้เขาเลย เป็นใครไม่ได้เลยก็คือ “สามารถ พยัคฆ์อรุณ” ที่เป็น

แชมป์โลกมวยสากลอาชีพคนที่ 10 ของไทย  ฝีไม้ลายมือนั้นปัจจุบันนี้หาดูได้จาก YouTube กับความสามารถเฉพาะตัวกับสายตาที่ว่องไว สำหรับ สามารถ มีชื่อจริงว่า สามารถ ทิพย์ท่าไม้ เกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2505 ที่ตำบลคลองเขต แต่ในปัจจุบันอยู่ในตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นบุตรของนายสมนึก กับนางเมค ทิพย์ท่าไม้ เขาได้เริ่มหัดมวยไทยตั้งแต่อายุ 11 ขวบ โดยใช้ชื่อว่า “สามารถ ลูกคลองเขต” โดยสามารถมีพี่ชายแท้ๆ ซึ่งเป็นอดีตนักมวยไทยชื่อดังด้วยคือ ก้องธรณี พยัคฆ์อรุณ

ก้องธรณี เป็นอีกหนึ่งนักชกที่เคยได้รับโอกาสครั้งสำคัญกับการที่เขานั้นได้ ชกมวยสากลเหมือนสามารถ โดยฝีไม้ลายมือนั้นเก่งกาจถึงขนาดที่ มีโอกาสชิงแชมป์โลกถึง 2 ครั้ง แต่อย่างไรก็ตามกลับไม่ประสบความสำเร็จ หากย้อนกลับไปโดยครั้งนั้นเขาก็ได้ชิงอีกครั้งหนึ่ง โดยครั้งที่ 2 ได้ชิงแชมป์กับแชมป์โลกชาวไทยด้วยกันเองคือ เขาทราย แกแล็คซี่ สามารถได้ขึ้นชกมวยไทยครั้งแรก ที่จังหวัดชลบุรีเมื่อ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2517 เอาชนะคะแนนเพชรอรุณ ศิษย์นิมิต

และหลังจากนั้นเจ้าตัวนั้นก็ได้ไปเที่ยวฉายแถว ตระเวนชกในแถบจังหวัดภาคตะวันออกถึงร้อยกว่าครั้ง และหลังตระเวนไปทั่วแล้วก็ได้เดินทางกลับมาชกในเมืองหลวงในกรุงเทพ ในปี พ.ศ. 2522 ที่ สนามมวยเวทีลุมพินี โดยขนาดนั้นเจ้าตัวนั้นได้อยู่ในการดูแลของโปรโมเตอร์ชื่อดังอย่าง ทรงชัย รัตนสุบรรณ สามารถถือเป็นนักมวยชั้นเชิงแพรวพราว สายตาดี ชกได้สนุก ชนะใจคนดู และประสบความสำเร็จอย่างมากในการชกมวยไทย โดยได้แชมป์ของสนามมวยเวทีลุมพินีถึง 4 รุ่นด้วยกัน นักมวย mma ที่เก่งที่สุด

สามารถ พยัคฆ์อรุณ

และยอดนักชกอีกคนหนึ่งที่เก่งที่สุดคนต่อมาจะเป็นใครไปไม่ได้เลยก็คือ แสนชัย พีเคแสนชัยมวยไทยยิม สำหรับคนนี้ แสนชัย มีชื่อจริงคือ ศุภชัย แสนพงษ์ เกิดวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2523 ที่บ้านโนนสูง ตำบลดอนกลาง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม สัญชาตญาณนั้นเป็นนักสู้มาโดยกำเนิด หากย้อนกลับไปสมัยเด็กจากคำพูดและคำสัมภาษณ์จะรู้เลยว่าเจ้าตัวนั้นเป็นคนที่ ชื่นชอบกีฬาชกมวยมาตั้งแต่เด็ก เคยเป็นนักมวยไทยที่ได้รับการยอมรับว่าเก่งที่สุดในยุคนี้เมื่อเทียบปอนด์ต่อปอนด์ สถิติการชกมวยสากล 5 ครั้ง ชนะ 5 (น็อค 2ครั้ง)

อย่างไรก็ตามสำหรับหลายคนที่ไม่เคยรู้ว่าครั้งหนึ่งนั้นทางด้าน แสนชัยยังเป็นนักมวยไทยที่มีชื่อเสียง ที่ซึ่งเคยชกมวยสากล โดยอดีตนั้นไม่ธรรมดาเพราะเคยมีตำแหน่งแชมป์ ที่สำคัญๆมากมายและตอนที่เขามีอายุ 17 ปี ได้เป็นแชมป์มวยไทย รุ่นซูเปอร์ฟลายเวท พิกัดน้ำหนัก 115 ปอนด์ ของสนามมวยเวทีลุมพินี ปี 2540 จนมาถึงอายุ 18 ปี ก็เป็นแชมป์มวยไทย รุ่นแบนตั้มเวท พิกัดน้ำหนัก 118 ปอนด์ ของสนามมวยเวทีลุมพินี ปี 2541, แชมป์มวยไทย รุ่นแบนตั้มเวท ของสนามมวยเวทีลุมพินี ปี 2542, แชมป์มวยไทย รุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวท พิกัดน้ำหนัก 130 ปอนด์(58.967 กก.) ของสนามมวยเวทีลุมพินี ปี 2548, แชมป์มวยไทย รุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวท ของสนามมวยเวทีลุมพินี ปี 2551, อายุ 30 ปี เป็นแชมป์มวยไทย รุ่นไลท์เวท ของสนามมวยเวทีลุมพินี และ WMC ศึกเพชรยินดี ปี 2553

สามารถ พยัคฆ์อรุณ

นักมวยที่เก่งที่สุดอีกคน สำหรับ วิชาญน้อย พรทวี ฝีมือมือดีอยู่ไม่น้อย โดยสำหรับนักชกวันนี้นั้น วิชาญน้อย พรทวี นักมวยไทยชาวไทย เกิดเมื่อ พ.ศ. 2491 ที่จังหวัดนนทบุรี เริ่มฝึกมวยไทยโดย “เฉลียว ทินโมราห์” เริ่มชกมวยครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2503 ใช้ชื่อ “วิชาญน้อย ศรีเมืองนนท์” เคยเป็นนักมวยค่าย ศรีเมืองนนท์ ต่อมาเปลี่ยนมาอยู่ค่าย พรทวี และสุดท้ายมาอยู่กับค่าย เพชรยินดี สิ่งสำคัญที่สุดดีกรีไม่ธรรมดาเลยเพราะ เคยเป็นแชมป์ฟลายเวท ของสนามมวยเวทีลุมพินี และเวทีมวยราชดำเนิน ต่อมาข้ามมาชกในรุ่นจูเนียร์ไลท์เวท เวทีราชดำเนิน และสามารถรักษาตำแหน่งแชมป์ต่อเนื่องนาน 5 ปี

โดยฝีไม้ลายมือตอนนั้น โดดเด่นเป็นอย่างมากจนแฟนมวยหลายคนนั้นยกย่องและขนานนามว่า เป็น “ยอดมวยอมตะ” ด้วยเหตุผลที่ให้ใช้ยาดังกล่าวนั้นก็คือว่า เนื่องจากมีประสบการณ์สูง วิชาญน้อยแขวนนวมอย่างถาวรในปี พ.ศ. 2524 เมื่ออายุ 34 ปี พุฒ ล้อเหล็ก นักมวยไทยระดับแถวหน้า ฉายา ไอ้หนูเมืองตรัง หลังจากนั้นไม่นานก็ได้เปลี่ยนใหม่เป็น พุฒ ล้อเหล็ก หรือชื่อจริงว่า ทวี พิพัฒกุล เรียกได้ว่าเป็นนักมวยไทยระดับแถวหน้า โดยเป็นแชมป์ของสนามมวยเวทีลุมพินี และเวทีราชดำเนิน มีฉายาว่า ไอ้หนูเมืองตรัง มีชื่อเสียงระหว่าง พ.ศ. 2513-2520 สถิติการชก 80 กว่าครั้งในช่วง 10 ปี พุฒ ล้อเหล็ก

ไม่เคยแพ้น็อคหรือเทคนิคเกิลน็อคเอาท์   ซึ่งตลอดการชกมวยตลอดชีวิตนั้นเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่สุดยอด กับสถิติที่น่าสนใจนั่นก็คือ ไม่เคยแม้แต่โดนนับเลย ซึ่งจะเรียกได้ว่าแล้วย้อนกลับไปมีเพียงครั้งเดียวที่โดนหมัดของศิริมงคล ลูกศิริพัฒน์ จนพุฒลงไปคลานสี่ขาแต่ไม่โดนนับ และยังเป็นฝ่ายชนะศิริมงคลในการชกที่เวทีหัวหมาก ในวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2516 พุฒ ล้อเหล็ก ได้เสียชีวิตเมื่อวันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2563 เวลาประมาณ 21.00 น. ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว หลังเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ ณ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จ.สงขลา

ติดตามข่าวสารทุกวงการมวยได้ที่ muaytoday.com

แทงมวยออนไลน์ ราคาน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย

ข่าวมวย ล่าสุด