muaytoday LINE : @mtdfc
muaytoday
วันที่ 26 เมษายน 2024 5:42 AM
muaytoday
muaytoday
หน้าหลัก » ข่าวมวย » คมเพชร เผยจุดเปลี่ยนสำคัญ ปรับสไตล์การชกมาเดินลุย

คมเพชร เผยจุดเปลี่ยนสำคัญ ปรับสไตล์การชกมาเดินลุย

อัพเดทวันที่ 25 สิงหาคม 2022 เข้าดู 35 ครั้ง

คมเพชร กำลังจะได้เป็นตัวแทนนักสู้ชาวไทย ลงแข่งขันทัวร์นาเมนต์ใหญ่ของแดนอาทิตย์อุทัย นี่ไม่ใช่แค่ครั้งแรกของการออกไปต่อสู้นอกแผ่นดินเกิดของ คมเพชร แต่นี่กำลังจะเป็นหนแรกในชีวิตที่เขาจะได้นั่งเครื่องบินออกเดินทางอีกด้วย  คมเพชร โชติบางแสน หรือ คมเพชร ศิษย์สารวัตรเสือ แจ้งเกิดอย่างรวดเร็ว เพียงการชกแค่ไม่กี่ครั้งในกรุงเทพ ฯ จนกลายเป็นนักมวยดาวรุ่งที่น่าจับตามองของ เวทีมวยลุมพินี และที่ช่อง 7 สี ช่วงน้ำหนัก 100-112 ปอนด์ “คมเพชร” เดินหน้าทำสถิติเอาชนะคู่ชกติดต่อกันเกิน 10 ไฟต์ พร้อมกวาดเข็มขัดมาคาดเอวได้อย่างต่อเนื่อง แทบไม่เคยพลาดยามขึ้นชิงแชมป์

คมเพชร

ทว่าพอร่างกายเริ่มโตขึ้น บวกกับผลงานที่ดีต่อเนื่อง ทำให้ “คมเพชรเริ่มเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากขึ้นจากฟอร์มที่เคยสดแรงก็เริ่มเปลี่ยนดร็อปลงมา มิหน้ำซ้ำยังถูกแฟนมวยวิจารณ์เรื่องสไตล์การชกที่เน้นตั้งรับมากเกินไป ออกอาวุธน้อย เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบการชกของตัวเองใหม่ จากมวยถอยมากลายเป็นมวยเดิน

 

“พอช่วงที่ผมต่อยพิกัด 118 ปอนด์ ผมก็เปลี่ยนมาต่อยในสไตล์ที่เดินหา เดินบู๊กับคู่ต่อสูมากขึ้น เนื่องจากมีพี่ๆแฟนมวยวิจารณ์กันเยอะหาว่าผมหนีเยอะไป ต่อยไม่สนุก” “ผมก็เลยตัดสินใจลองเปลี่ยนสไตล์การชกดู แรกๆก็อาจยังขาดๆเกินๆบ้างครับ มีแพ้ ชนะสลับกันไป ผมก็พยายามหาจุดกึ่งกลางของการเป็นมวยฝีมือกับมวยบู๊ให้ได้ กว่าจะคุ้นชิน ก็ใช้เวลาพอสมควรครับ”หลังจากปราบสไตล์เปลี่ยนมาเป็นมวยเดินเปิดเกมรุกก่อน “คมเพชรก็ถูกเรียกตัวแทนมาชกแทนเจอกับคู่ต่อสู้ที่ว่ากันว่าเป็น นักมวยไทยที่เก่งสุดเมื่อเทียบปอนด์ต่อปอนด์ น้ำหนักเท่ากันแทบหาคู่ชกไม่ได้ อย่าง “พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทย”

ซึ่งในเวลาต่อมา พระจันทร์ฉาย ก็ก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์โลกมวยไทยของ ONE Championship ในรุ่น สตรอเวต (เป็นแชมป์ 1 สมัยก่อนเสียเข็มขัดให้ โจเซป ลาซิรี) ก่อนการชกแทบไม่มีใครเชื่อว่า “คมเพชรจะเอาชนะ “พระจันทร์ฉาย” ทว่า คมเพชรก็เดินบู๊รุกเต็มสูบจนเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนมาได้ ในการเจอกันครั้งแรกของทั้งคู่“พี่พระจันทร์ฉายเขาเป็นมวยฝีมืออยู่แล้วครั้นผมจะมาเล่นฝีมือด้วยกลัวจะหลงเหลี่ยมและอีกอย่างผมกลัวพี่ๆแฟนมวยตำหนิผมอีกผมก็เลยตัดสินใจเปิดเกมเดินเลย อาศัยรูปร่างที่ใหญ่กว่าเอาชนะพี่พระจันทร์ฉายมาได้ ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันครับ ยอมรับว่าพี่เขาเก่งจริงๆ”

คมเพชร

เมื่อถามถึงไอดอล ต้นแบบในการชกมวยของเขา คมเพชรก็ตอบมาทันที โดยแทบจะไม่ต้องคิดเลยว่า จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก “ดิ ไอรอน แมน” รถถัง จิตรเมืองนนท์ แชมป์โลกมวยไทย ONE รุ่นฟลายเวต นั่นเอง ผมชื่นชอบพี่รถถังครับ ชื่นชอบในทุกๆอย่างของพี่เขา ไม่ว่าจะเป็นฝีมือการชก การวางตัวต่างๆ ผมอยากดังแบบพี่รถถังครับ เหตุผลที่ผมปรับเปลี่ยนสไตล์การชกมาเป็นแบบเดินลุย ส่วนหนึ่งก็ยึดพี่รถถังนี่แหละครับเป็นต้นแบบ อยากไปต่อยต่างประเทศ โชว์ลีลามวยไทยให้กับชาวต่างประเทศได้ชมกัน”

คมเพชรประกาศชัดเจนผ่านสื่อตลอดหลายครั้งที่สัมภาษณ์ว่า เขาอยากมีโอกาสไปชกต่างประเทศบ้าง ไม่ว่าจะรายการใดก็ได้ แต่การไปถึงจุดนั้นได้อันดับแรก คมเพชรต้องทำผลงานภายในประเทศให้โดดเด่นจนได้รับการจับตามองก่อน ซึ่งในเส้นทางการชกมวย มีเสี้ยนหนามหัวใจ 2 คนที่เขายังไม่เคยชนะและมีโอกาสแก้มือได้

นั่นคือ รณชัย ต.รามอินทรา และ วิว เพชรโกศล รายแรกเคยเจอกับ คมเพชรมาแล้วถึง 4 ครั้งปรากฏว่าไม่เคยครั้งไหนเลยที่คมเพชรสามารถเอาชนะรณชัยได้กระทั่งเมื่อเดือนเมษายน 2565 คมเพชรเป็นฝ่ายเดินเปิดเกมและเอาชนะคู่ปรับเก่าอย่าง รณชัย ได้เป็นครั้งแรก

ส่วนอีกคนในรุ่นเดียวกันที่จอมฝีมือ อาวุธจุกจิกชกยาก นั่นคือ วิว เพชรโกศล 2 ครั้งที่ผ่านมาคมเพชรแพ้วิวมาทุกไฟต์ แต่ในครั้งนี้ คมเพชรงัดเอาฟอร์มสุดยอดขึ้นมา โดยอาศัยความแข็งแรง ผนวกกับฝีมือที่จัดจ้านเอาชนะคะแนนมาได้อย่างสวยงาม ชนิดที่เจ้าตัวภูมิใจกับชัยชนะครังนี้มาก ก่อนหน้านี้ผมเจอกับวิวมาแล้ว 2 ครั้ง ผมแพ้เขาทั้ง 2 ครั้ง

ที่ผมแพ้เขาไม่ได้แพ้เพราะฝีมือ แต่แพ้เพราะบรรยากาศ สภาพแวดล้อมต่างๆ มันบีบผมไปหมด ผมอึดอัด เลยทำอะไรไม่ได้ดั่งใจเกร็งไปหมดแต่คราวนี้มาต่อยกันที่สมุย ผมสบายใจที่สุด ไม่มีบรรยากาศใดๆมาทำให้ผมเครียด ผมต่อยแบบไม่กดดัน ต่อยตามแผนที่วางมา ผลงานที่ออกมาก็เลยดีตามที่ผมตั้งใจไว้ ดีใจและภูมิใจมากๆครับ”

คมเพชร

 

แม้ว่าในไฟต์ล่าสุดที่เอาชนะ วิว เขาจะต้องชกแบบระวังตัวเองมากขึ้น เพราะ คมเพชรได้รับการติดต่อขึ้นรายการต่างประเทศล่วงหน้าในศึก K-1 ช่วงกลางเดือนกันยายน 2565 จึงไม่อยากแพ้น็อกและไม่อยากให้เกิดบาดแผลแตกใบหน้า แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ถึงตอนนี้ คมเพชรมีความพร้อมอย่างมากสำหรับการนั่งเครื่องบินโดยสารครั้งแรกในชีวิต

เพื่อออกไปโกอินเตอร์หนแรกในทัวร์นาเมนต์เวิลด์กรังด์ปรีซ์ ที่แข่งวันเดียวรู้ผล ใช้ระบบแพ้คัดออก หากใครชนะ 3 ครั้งในมวยรอบ ก็จะได้เข็มขัดเงินไปครอง โดยไฟต์แรก คมเพชรต้องเจอกับ มาซาชิ คูมูระ นักสู้ฝีมือดีชาวญี่ปุ่น การไปต่อยต่างประเทศมันคือความฝันของผมเลยครับ เพราะว่าชกในไทย ก็ประสบความสำเร็จหมดทุกอย่าง ได้แชมป์เมเจอร์ในไทย มาแล้วถึง 6 เส้นก็เลยอยากไปหาความท้าทายที่ต่างประเทศ”

“สิ่งที่ผมตั้งใจเตรียมจะไปโชว์ให้กับคนญี่ปุ่นดู ก็คือศิลปะมวยไทยต่างๆครับ ไม่ว่าจะเป็นแข้ง เข่า ลูกเตะตัดล่าง ครั้งนี้ผมต่อยในพิกัด 122 ปอนด์ ซึ่งเป็นพิกัดที่ผมคิดว่าตัวเองสบายที่สุดรับรองจัดเต็มแน่นอนครับ อีกอย่างที่ผมตื่นเต้นอีกอย่างก็คือ เป็นการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกของผม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมกังวลใจมากกว่าการชกอีก มันจินตนาการไม่ออกครับ ว่าจะเป็นยังไง

ได้ยินหลายๆคนพูดว่าน่ากลัว ผมเองก็เลยหวั่นๆ ครั้งนี้ผมไปกับพี่ก.ไก่ ศักดิ์หอมศีล เทรนเนอร์ของผม คงต้องผลัดกันปลอบ ผลัดกันให้กำลังใจครับ (หัวเราะ) สิ่งที่ผมวาดหวังไว้ เมื่อไปชกที่ญี่ปุ่นก็คือ คนดูน่าจะเยอะ ผมตั้งใจมากในการไปชกครั้งนี้ จะออกอาวุธเยอะๆให้แฟนมวยญี่ปุ่นได้เห็น เขาจะได้ประทับใจและอยากเห็นเราชกในครั้งต่อไป ฝากช่วยเชียร์และเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ 11 กันยายนนี้ ผมจะไม่ทำให้แฟนมวยญี่ปุ่นและแฟนมวยชาวไทยผิดหวังในการชกของผมแน่นอนครับ”

 

ติดตามข่าวสารทุกวงการมวยได้ที่ muaytoday.com

แทงมวยออนไลน์ ราคาน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย

ข่าวมวย ล่าสุด