muaytoday LINE : @mtdfc
muaytoday
วันที่ 3 พฤษภาคม 2024 5:46 AM
muaytoday
muaytoday
หน้าหลัก » ข่าวมวย » ดีเซลน้อย ช.ธนสุกาญจน์ ยอดตำนานฉายา ขุนเข่าทะลุฟ้า ปรมาจารย์กำปั้นไทย

ดีเซลน้อย ช.ธนสุกาญจน์ ยอดตำนานฉายา ขุนเข่าทะลุฟ้า ปรมาจารย์กำปั้นไทย

อัพเดทวันที่ 1 มีนาคม 2022 เข้าดู 372 ครั้ง

ดีเซลน้อย ช.ธนสุกาญจน์ ขุนเข่าทะลุฟ้า ปรมาจารย์กำปั้นไทย ปัจจุบันนี้ต้องยอมรับเลยว่านักมวยที่จะประสบความสำเร็จเรื่อง เข่า แบบนักชกยุคเก่าต้องยอมรับหรือว่าหายากเป็นอย่างมาก ถ้าพูดถึงมวยเข่าที่ดีสุดในยุคทองของมวยไทย แน่นอนว่าต้องมีชื่อของ “ดีเซลน้อย ช.ธนสุกาญจน์” ปรมาจารย์กำปั้นไทย เจ้าของฉายา “ขุนเข่าทะลุฟ้า” อยู่ด้วยแน่นอน ด้วยรูปร่างที่สูงยาว ปราบยอดมวยมานับไม่ถ้วนจนไร้คู่ต่อกร ทำให้ “ดีเซลน้อย” ถูกจัดอยู่ในลิสต์ของตำนานนักมวยไทยที่ดีสุดอีกคนหนึ่งของมวยไทยอาชีพ ไม่เพียงเท่านั้นชีวิตหลังแขวนนวม “ดีเซลน้อย” ยังทำหน้าที่เปรียบเสมือนทูตมวยไทยผู้นำศิลปะการต่อสู้ประจำชาติของเราไปเผยแพร่ในต่างแดนตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา

ดีเซลน้อย ช.ธนสุกาญจน์

โดยจากวิชาความรู้นั้นโดยได้ออกไปเผยแพร่ให้ชาวโลกรู้จัก ส่งผลทำให้คนทั่วโลกให้การยอมรับในกีฬามวยไทย รวมถึงให้ความเคารพนับถือในความสามารถของ “ขุนเข่าทะลุฟ้า” นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม “ดีเซลน้อยช.ธนสุกาญจน์” หรือ นายธนากร สอนดี จึงคู่ควรและเหมาะสมอย่างยิ่งกับ รางวัลเชิดชูเกียรติ สาขา “ผู้เผยแพร่ศิลปะมวยไทยในต่างประเทศดีเด่น” เนื่องในวันมวยไทย ประจำปี 2563

ทำไมนักชกรุ่นใหม่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้จัก?

สำหรับ ดีเซลน้อยช.ธนสุกาญจน์ โดยชื่อจริงๆแล้วนั้นนามว่า ธนากร สอนดี เกิดมาลืมตาดูโลกในวันที่ 26 ธันวาคม 2504 ที่อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยได้คลุกคลีในวงการมวยตั้งแต่อายุ 12 ปี ใช้ชื่อว่า ดีเซลน้อยส.บรรจงศักดิ์ ก่อนเปลี่ยนมาใช้ ส.วรกุลชัย และช.ธนสุกาญจน์ จนโด่งดังทะลุฟ้า ด้วยความที่มีรูปร่างสูงยาวจึงถูกฝึกให้เป็นมวยเข่า เขาเอาชนะมวยดีจนแทบจะหมดคู่ชก และเคยได้ค่าตัวถึง 2 แสนบาท เกียรติประวัติสมัยชกมวยไทย ดีเซลน้อยเคยได้เข็มขัดแชมป์ไลท์เวต เวทีลุมพินี ด้วยการชนะ ขาวผ่อง สิทธิชูชัย และครองแชมป์อยู่ 3 ปี จึงสละตำแหน่งเพราะไม่มีผู้ท้าชิง

สำหรับผลงานโดดเด่นที่ยังคงจำฝังใจและประทับใจจนถึงทุกวันนี้ก็คือ การปราบเหล่ายอดมวยอย่าง วิชาญน้อย พรทวี, เผด็จศึก พิษณุราชันย์, สามารถ พยัคฆ์อรุณ, หนองคาย ส.ประภัสสร รวมทั้งฮีโร่โอลิมปิกอย่าง ขาวผ่อง สิทธิชูชัย หรือ ทวี อัมพรมหา ดีเซลน้อย เคยเทิร์นโปรชกมวยสากลอาชีพ 1 ครั้ง

แล้วหลังจากนั้นก็กลับมาสู่เส้นทางเดิมนั่นก็คือ ย้อนกลับมาชกมวยมวยไทยตามเดิม กระทั่งได้ชกมาร์เชียลอาร์ต โดยใช้ศิลปะแม่ไม้มวยไทยเอาชนะน็อกนักเทควันโดจากเกาหลีใต้และนักคิกบอกซิ่งจากญี่ปุ่นได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งเคยบินไปน็อกแชมป์คาราเต้ โจ มอนคาโย่ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งให้สมญานาม ขุนเข่าทะลุฟ้า ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลาย

ดีเซลน้อย ช.ธนสุกาญจน์

หลังจากที่ได้ประกาศเลิกลาจากวงการมวยในวัย 25 ปี โดยสาเหตุสำคัญนั่นก็คือในประเทศไทยนั้นไม่มีใครจะชกด้วยแล้ว เจ้าตัวก็ได้เดินทางไปเปิดประสบการณ์ใหม่ต่างประเทศ โดยการไปชกคิกบ็อกซิ่งที่ประเทศญี่ปุ่นจนมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จัก จึงลงหลักปักฐานทำธุรกิจและสอนมวยอยู่ที่นั่นหลายปี ก่อนบินกลับเมืองไทยมาเป็นครูมวย, วิทยากรพิเศษ และยังคงเดินสายไปสอนมวย ไปจัดสัมมนาเผยแพร่วิชามวยไทยในต่างแดนอยู่ตลอด โดย ดีเซลน้อย กล่าวว่าหากไม่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ชีวิตของเขาคงวนเวียนอยู่กับการสอนมวยในต่างประเทศเป็นหลัก ดีเซลน้อย มีลูกศิษย์เป็นชาวต่างชาติทั่วโลก และทุกคนล้วนให้การยอมรับนับถือความสามารถด้านการตีเข่าของ ดีเซลน้อย ที่ยากจะหาใครเลียนแบบได้

อย่างไรก็ตามสำหรับจุดแข็งที่มีใครเอาเขาลงนั่นก็คือ ดีเซลน้อย ต้องยอมรับเลยว่าเป็นนักรบที่มีความสูงที่เกินมาตรฐานนักมวยไทย โดยในอดีตนั้นพิกัดที่เขาชกอยู่ในพิกัดรุ่นไลท์เวต 135 ปอนด์ แต่สูงถึง 185 เซนติเมตร สูงกว่าอดีตแชมป์โลกเฮฟวี่เวตอย่าง ไมค์ ไทสัน และ โจ ฟราเซียร์ ซึ่งหนักเกิน 200 ปอนด์ เสียอีก ด้วยความสูงที่ได้เปรียบคู่ต่อสู้ทุกคน ทำให้เขาถูกฝึกมาให้เป็นมวยเข่า ประกอบกับความที่เจ้าตัวเป็นคนขยัน มุ่งมั่นตั้งใจฝึกซ้อม จึงไม่แปลกที่สุดท้าย ดีเซลน้อย จะกลายมาเป็นตำนานมวยเข่าที่เก่งที่สุดอีกคนหนึ่งของเมืองไทย

เป็นที่ทราบกันดีว่านักมวยรุ่นเดียวกันต่างพูดไปทำนองเดียวกันว่า ดีเซลน้อย ช.ธนสุกาญจน์ เป็นมวยเข่าสไตล์ดุดัน เดินหน้ากระหน่ำแทงจนคู่ต่อสู้แทบร้องขอชีวิต แต่เมื่อลงจากเวที เขาเป็นพี่ เป็นเพื่อน เป็นน้องที่น่ารัก มีน้ำใจกับทุกคน

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ นิสัยเป็นคนให้เกียรติและเคารพทุกคนไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง อย่างเช่น โพธิ์ไทร สิทธิบุญเลิศ ที่เป็นยอดมวยที่เขาชื่นชมมาก ถึงขนาดเอารูปพี่โพธิ์มาตัดหัวแกทิ้งแล้วตัดหน้าตัวเองไปติดแทน เขาบอกว่าจะชกมวยให้เก่งเหมือนพี่โพธิ์ หรือกับนักมวยรุ่นน้องโดยเฉพาะที่กำลังชกอยู่ในปัจจุบัน เขาจะเล่าเรื่องวินัยการใช้เงินเพื่อเตือนสติน้อง ๆ ให้เก็บเงินไว้ใช้ยามเลิกมวยด้วย”

ดีเซลน้อย ช.ธนสุกาญจน์

และเรื่องที่น่าสนใจสำหรับอาชีพการชกตลอดชีวิตของ ดีเซลน้อย ได้เปิดใจถึงไฟที่สำคัญกับนักชกที่อยู่ในความทรงจำตลอดเวลานั้นก็คือ การชกกับไอดอลของตัวเองอย่าง โพธิ์ไทร สิทธิบุญเลิศ แล้วเป็นฝ่ายชนะคะแนนเจ้าของฉายา ขุนเข่าเสาโทรเลข ตัวจริงขาดลอย ตอนนั้น ดีเซลน้อย เป็นมวยเข่าดาวรุ่ง สื่อมวลชนจึงนำฉายายอดมวยรุ่นพี่มาให้ใช้ แต่เมื่อชนะโพธิ์ไทรได้จึงได้รับสมญานามว่า ขุนเข่าทะลุฟ้า แทนที่ แม้ว่าก่อนหน้านั้น ศักดิ์ณรงค์น้อย ช.ชูติรัตน์ คู่ปรับที่เคยแพ้ ดีเซลน้อย เป็นผู้ที่จะเคยใช้ฉายานี้มาก่อนก็ตาม

อย่างไรก็ตามถ้าหากจะเอ่ยถึงฉายาคำว่าขุนเข่าทะลุฟ้า แน่นอนว่าหลายคนต่างก็จะนึกถึงนักชกเพียงหนึ่งเดียวนั่นก็คือ ดีเซลน้อย ช.ธนะสุกาญจน์ ต่อมาคือการชกกับ ขาวผ่อง สิทธิชูชัย ซึ่งเจ้าตัวแพ้น็อกจนแทบจำบ้านเลขที่ไม่ได้ ชัยชนะของขาวผ่องทำให้เขาถูกเรียกตัวติดทีมชาติจนคว้าเหรียญเงินโอลิมปิก 1984 ที่เมืองลอสแอนเจลิส

ส่งผลทำให้ปัจจุบันนี้กลายมาเป็นนักชกประวัติศาสตร์ในห้วงเวลานั้น และไฟต์ที่ 3 คือการชนะคะแนน สามารถ พยัคฆ์อรุณ ซึ่งเป็นไฟต์ที่สร้างชื่อให้กับเจ้าตัวเป็นอย่างมาก เมื่อสามารถยอมรับอย่างลูกผู้ชายว่าเขาสู้ดีเซลน้อยไม่ได้เลยสักกระบวนท่า หนำซ้ำยังไม่ต้องการแก้มืออีกด้วย ภายหลังเลิกมวยทั้งคู่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทชนิดที่ไปไหนไปกัน

 

ติดตามข่าวสารทุกวงการมวยได้ที่ muaytoday.com

แทงมวยออนไลน์ ราคาน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย

ข่าวมวย ล่าสุด