ธิติสรรค์ เสียดายชวดชก โอลิมปิกเกมส์ เหตุเอ็นไขว้หน้าเข่าฉีก

ธิติสรรค์ ปั้นโหมด นักมวยสากล ความหวังของประเทศไทยรุ่น 52 กก.ชาย ทัพกีฬาไทย จำเป็นต้องถูกตัดสิทธิ์อดไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่ใกล้กำลังจะถึงนี้ ณ ประเทศญี่ปุ่น  โดยเรื่องราวดังกล่าวนี้ยืนยันจากทาง ทัพกีฬาไทย ที่ได้ออกมาประกาศข่าวร้ายว่าทางด้าน “เหลิม” นักมวยสากล ทีมชาติไทยรุ่น 52 กก.ชาย ล่าสุดนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำใจถอนตัวจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส ที่ประเทศญี่ปุ่น 

โดยสาเหตุนั้นเป็นเพราะว่าเกิดอาการบาดเจ็บขนาด ตอนซ้อมอย่างหนัก อย่างไรก็ตามจากการประเมินแล้วยืนยันว่าไม่มีทางหายทันแข่งแน่นอน โดยปัจจุบันนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าคณะนักมวยสากล ทีมชาติไทย ชุดโอลิมปิกเกมส์ โดยปัจจุบันนี้ได้เก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ มวกเหล็ก จ.สระบุรี แล้ว “เหลิม” ธิติสรรค์ ปั้นโหมด นักมวยสากล

ความโชคร้ายของนักชกไว “เหลิม” นั่นก็คือขนาดตอนนั้นได้รับบาดเจ็บระหว่างการฝึกซ้อม อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้ถึงแม้ว่าเขานั้นจะได้ทำการ เข้ามารักษาตัวที่ ศูนย์วิทยาศาสตร์ การกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้วดูเหมือนว่าจะหายไม่ทัน อย่างไรก็ตามทางด้านผู้ที่ต้องรับผิดชอบก็คือ สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ก็ได้แต่หวังว่าเจ้าตัวนั้นจะหายทันก่อนที่จะได้เดินทางไปโชว์ฝีมือในกีฬาโอลิมปิกเกมส

อย่างไรก็ตามทางด้าน ประธานเทคนิค สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย นายสมชาย พูลสวัสดิ์  โดยล่าสุดนี้ก็ได้เดินทางไปเยี่ยมนักมวยทีมชาติไทย ที่การสวอปเทสต์ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการ ก่อนที่ทั้งหมดนั้นจะต้องเก็บกระเป๋าเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น แต่สิ่งที่ได้เห็นนั่นก็คือว่าภาพที่เห็นนั่นก็คือ “เหลิม” สภาพร่างกายแล้ววินาทีที่เห็นก็คือ ไม่สามารถเดินมาตรวจได้ ต้องให้ขี่คอสตาฟฟ์โค้ชมาสวอปเทสต์

และภาพที่เห็น ธิติสรรค์ ปั้นโหมด สภาพสตาฟฟ์โค้ชต้องช่วยกันหามส่ง นักมวยความหวังของทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์ เช่นนั้นออกไปทำให้ สมาคมกีฬามวยสากลฯ ถึงกับคิดหนักมีความกังวลอย่างยิ่ง จึงได้ส่งตัวให้ นอ.พิเศษ ไพศาล จันทร์พิทักษ์ หัวหน้าฝ่ายแพทย์ทีมชาติไทย

ได้ดูอาการและส่งเข้าทำ MRI ซึ่งหลังจากนั้นก็รู้สาเหตุว่ามันรุนแรงมากโดยพบว่า เอ็นไขว้หน้าเข่าซ้ายฉีกขาด และจะต้องเข้าผ่าตัดรักษา พักฟื้น รวมเวลาไม่น้อยกว่า 4-5 เดือน

หอพักอย่างไรก็ตามเรื่องนี้นั้นทางด้าน ประธานเทคนิค หรือสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ได้กล่าวเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า ได้คุยกับทีมงานโค้ชเรียบร้อยแล้ว รวมถึงนักมวยก็คุยแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องบอกและยอมรับว่าลำบากใจมาก ถึงแม้ว่าจะลำบากใจแค่ไหนสิ่งหนึ่งและสิ่งสำคัญที่สุดก็ ต้องยอมรับความจริงให้ได้ว่า “เหลิม” ไม่สามารถไปชกในครั้งนี้ได้อย่างไรก็ตามก็รู้สึกเสียดาย เหมือนกันที่ไม่สามารถไปแข่งขันได้ จึงได้ตัดสินใจถอนตัวจาก โอลิมปิกเกมส์ อย่างไรก็ตาม สำหรับนักมวยรายนี้ยังมีอนาคตกับทีมชาติไทย เมื่อเขารักษาตัวจนหายแล้ว ยังมีโอกาสที่จะไปโอลิมปิกเกมส์ ที่ปารีส ในปี 2024 อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามไม่ต้องเสียใจไปสำหรับแฟนมวยไทยเพราะ ทั้งนี้ นักมวยสากลทีมชาติไทยที่ได้โควต้าไปแข่งโอลิมปิกเกมส์ 2020 ยังเหลืออีก 4 คน ประกอบด้วย รุ่นเฟเธอร์เวตชาย (57 กก.) ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี สถิติเหรียญรางวัล เหรียญทอง – ชนะเลิศ ซีเกมส์ 2009 แบนตั้มเวท

เหรียญเงิน– ชนะเลิศ ซีเกมส์ 2017 แบนตั้มเวท – รองชนะเลิศ ซีเกมส์ 2011 ฟลายเวท เหรียญทอง – ชนะเลิศ ซีเกมส์ 2013 ฟลายเวท เหรียญทอง เหรียญทอง – ชนะเลิศ ซีเกมส์ 2019 แบนตั้มเวท

ธิติสรรค์ ปั้นโหมด (52 กก.ชาย) ที่อยู่ในลำดับที่ 8 ของอันดับ BTF รุ่นไลต์เวตหญิง (60 กก.) สุดาพร สีสอนดี สถิติ เหรียญเงิน – รองชนะเลิศ นิวเดลี 2018 ไลท์เวท เหรียญทองแดง – – รองชนะเลิศ จาการ์ตา 2018 ไลท์เวท ,ใบสน มณีก้อน (69 กก.หญิง)

อันดับที่ 3 นครเชจู 2014 ซูเปอร์ไลท์เวท เอเชียนเกมส์ เหรียญเงิน รุ่นเวลเตอร์เวตหญิง (69 กก.) ใบสน มณีก้อน รุ่นฟลายเวตหญิง ( 51 กก.) จุฑามาศ จิตรพงศ์

ทั้งนี้บอกตามตรงว่าเป็นน่าเสียด้ายและใหญ่หลวงยิ่งนักเพราะ ก่อนหน้านี้จะเห็นได้ว่าถึงแม้ว่า 4 นักกีฬาไทย นั้นจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมแต่สิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดนั่นก็คือ ว่าพวกเขาเหล่านี้นั้น กลับ ไม่ติดอันดับ 1 ใน 4 โอลิมปิก 2020  แต่อย่างไรอาจจะเป็นเพราะว่าปัจจุบันนี้ สมาคมมวยสากลนานาชาติเพิ่งจะถูกลงโทษจาก คณะกรรมการโอลิมปิกโดยการแข่งขันไป เหตุผลหลักๆ อาจจะเป็นเพราะแบบนี้ทำให้นักกีฬาทีมชาติของเรานั้นไม่สามารถจะติด อันดับ 4 นักกีฬาที่ดีที่สุดในครั้งนี้ได้ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือต้องทำผลงานให้เชิดฉาย แล้วทุกอย่างเชื่อว่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง

ติดตามข่าวสารทุกวงการมวยได้ที่ muaytoday.com

แทงมวยออนไลน์ ราคาน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย