muaytoday LINE : @mtdfc
muaytoday
วันที่ 6 พฤษภาคม 2024 9:57 AM
muaytoday
muaytoday
หน้าหลัก » ข่าวมวย » นำขบวน สิ้นแล้วยอดมวย ต้านมะเร็งไม่ไหว เสียชีวิตในวัย 48 ปี

นำขบวน สิ้นแล้วยอดมวย ต้านมะเร็งไม่ไหว เสียชีวิตในวัย 48 ปี

อัพเดทวันที่ 8 เมษายน 2021 เข้าดู 47 ครั้ง

นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ เสียชีวิตลงแล้ว ด้วยวัยเพียง 48 ปี ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วันนี้ (7 เม.ย. 64) จากการป่วยเป็นมะเร็งปอด เรียกได้ว่าเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของวงการกีฬาและวงการมวยที่เสียยอดมวยไทยชื่อดังไป

 

หลังจากเป็นข่าวช็อกวงการมวย เมื่ออดีตยอดมวยเงินแสน “จอมไถนา” นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ ป่วยเป็นมะเร็งระยะที่ 4 โดยตอนนั้นเจ้าตัวได้เดินทางไปตรวจรักษาที่ รพ.มหาราช จ.นครราชสีมา จากนั้นได้ทำการฉายแสง สแกนสมอง โดยตรวจพบว่ามะเร็งได้ลุกลามขึ้นสมองแล้ว โดย จอมยุทธ์เพียว ครั้งนั้นยังคงมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ได้พูดคุยกับทุกคนที่พบเจออย่างอารมณ์ดีไม่ได้ซึมเศร้าแต่อย่างใดพร้อมเปรยว่า

อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดคนเราเกิดมาต้องเจ็บต้องป่วยเป็นของธรรมดาสำหรับตัวเองคิดว่าร่างกายยังแข็งแรงอยู่เพียงแต่มีอ่อนเพลียง่าย จึงต้องพักผ่อนเยอะๆ เป็นนี้คือ สัมภาษณ์ครั้งสุดท้าย “จริงๆ แล้วสุขภาพร่างกายผมก็แข็งแรงดีนะ ก่อนหน้านี้ก็ไปสอนมวยที่ไทเกอร์มวยไทย ยิมมวยที่จ.ภูเก็ต

นำขบวน

แต่ครั้นพอโควิด-19 แพร่ระบาดในระลอกที่ 2 ผมก็กลับมาช่วยภรรยาเปิดร้านค้าขายหมูกะทะที่โคราช ซึ่งในวันอาทิตย์ที่ผ่านมารู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่ออก เหนื่อยง่ายและไอทั้งคืน พอไปตรวจหมอก็บอกว่าเป็นมะเร็งปอดระดับ 4 โดยลุกลามไปยังปอดทั้ง 2 ข้าง วันนี้ก็มาสแกนสมองเพื่อหาเชื้อ โดยต้องมาหาหมอที่ รพ.มหาราช ทุกวัน เพื่อตรวจรักษา ซึ่งใช้บัตร 30 บาท รักษาทุกโรครักษา สาเหตุที่ไม่นอนโรงพยาบาลก็เพราะค่าใช้จ่ายสูง หมอบอกว่าถ้าฉีดยาเพื่อให้อาการดีขึ้น ค่ายาตกเข็มละแสนกว่าบาท ฉีดทุกเดือน คิดดูว่าค่ารักษาเท่าไหร่ ครั้นจะตัดปอดทิ้งก็ไม่ดี ตอนนี้ก็ใช้บัตร 30 บาทรักษาทุกโรคไปก่อน

 

ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากการสูบบุหรี่ แต่ผมก็ใช่ว่าจะสูบจัดนะปกติแค่วันละ 3-4 มวนเท่านั้นเอง จะสูบก็ต่อเมื่อตอนดื่มเหล้าซะมากกว่า นอกจากนี้แล้วการสูดควันบุหรี่ สูดกลิ่นควันหมูกระทะ ก็น่าจะมีส่วน แต่อย่างว่ามันเป็นธุรกิจที่ผมต้องดูแลจึงหลีกหนีไม่พ้นสำหรับตัวผมเองมาพบความผิดปกติก็เมื่อไม่นานมานี้เอง ร่างกายอ่อนเพลีย อีกทั้งเชื้อมะเร็งมันลุกลามไวมาก เหนื่อยง่าย อีกทั้งไอทั้งคืน หลังตรวจพบ ผมก็ไม่รู้สึกห่อเหี่ยวอะไรนะคิดว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ก็ยังใช้ชีวิตตามปกติ ยังสนุกสนานร่าเริงเหมือนเดิม ที่ผ่านมาก็มีเพื่อน ๆ ที่ทราบข่าวโทร.มาถามอาการ อีกทั้งให้กำลังใจกันมากมาย ซึ่งผมก็ต้องขอขอบคุณกับความห่วงใย ซึ่งผมก็ใจยังสู้ ไม่ท้อถอยอยู่แล้ว นอกจากนี้แล้วก็อยากจะฝากไปยังคนวงการมวยทุกคน เรื่องสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญ ฉะนั้นอย่าละเลยเพิกเฉย อย่าคิดว่าตัวเองแน่ ต้องหมั่นดูแลสุขภาพ และที่สำคัญอาหารการกินก็เป็นสิ่งที่สำคัญ อย่ากินซี้ซั้วเด็ดขาด”

 

นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ ถือว่าเป็นนักมวยหน้าตาดี และยังมีลีลาการชกที่สวยงามเหมือนนำพล ผู้เป็นพี่ชาย เคยไปชกที่ประเทศญี่ปุ่นโดยพบกับ “ไอ้แรดดง” เหนือธรณี ทองราชา โดยเหนือธรณีออกอาวุธได้หนักหน่วงกว่า จะแจ้งกว่า ขณะที่่นำขบวนสามารถใช้ลีลาแม่ไม้มวยไทยได้สวยงามกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ท่ามณโฑนั่งแท่น ซึ่งเป็นแม่ไม้ที่ไม่ค่อยมีนักไทยคนไหนใช้กัน เนื่องจากใช้ยาก กรรมการจึงตัดสินให้นำขบวน ชนะคะแนนไป นอกจากนี้ยังเคยสร้างประวัติศาสตร์โดยเป็นแชมป์รุ่นจูเนียร์ไลท์เวท (130 ปอนด์)

 

ของเวทีลุมพีนียาวนานถึง 6 ปี โดยไม่มีใครสามารถชิงแชมป์ได้ จนต้องสละตำแหน่งไป และเคยเป็นแชมป์ของสภามวยไทยโลกด้วย โดยมีค่าตัวการชกสูงสุดถึง 260,000 บาท ครั้งหนึ่งจากการที่นำขบวนชอบใช้ลูกไถนานี้ จึงได้มีการประชุมกติกาและตกลงกันใหม่ว่า ห้ามนักมวยไทยใช้ลูกไถนานี้อีก เนื่องจากเป็นการเอาเปรียบคู่ต่อสู้ ซึ่งยังใช้เป็นกติกามาจนปัจจุบัน

ประวัติ นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ มีชื่อจริงว่า คำเพียว ศรีจันทึก ชื่อเล่นเพียว เกิดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2516 ที่ตำบลจันทึกอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นน้องชายของ นำพล หนองกี่พาหุยุทธ อดีตนักมวยไทยชื่อดังซึ่งเสียชีวิตด้วยวัณโรคปอดเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2559 ขณะอายุ 47 ปี

นำขบวน เริ่มอาชีพการชกมวย ด้วยการชกตาม นำพล ผู้เป็นพี่ชาย เคยแพ้น็อกยกแรก ในเวลาเพียง 33 วินาทีให้แก่ วังจั่นน้อย ส.พลังชัย แต่ในปี 2534 ที่นำพลแขวนนวมไปเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ นำขบวนได้พัฒนาฝีมือขึ้นมาจนเป็นยอดมวยที่ชกได้สวยงาม กลายเป็นมวยเอกภายในระยะเวลาไม่นาน โดยมีท่าไม้ตายทีเด็ดคือไถนา คือการจับขาของคู่ชกแล้วไถดันไปข้างหลังให้เสียหลัก จึงได้รับฉายาว่า “จอมไถนา” นำขบวนสร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์รุ่นจูเนียร์ไลท์เวท (130 ปอนด์) ของเวทีลุมพีนียาวนานถึง 6 ปี โดยไม่มีใครสามารถแย่งแชมป์ไปได้ จนต้องสละตำแหน่งไปเอง

สถิติการชกทั้งหมด 283 ครั้ง ชนะไป 266 ครั้ง แพ้ 15 และเสมอ 2 ครั้ง มีฉายาว่า “ขุนเข่าพนมรุ้ง” มีท่าเด็ดในการชกคือ การจับขาคู่ชกแล้วไถดันไปจนเสียหลัก เป็นที่มาของฉายา “จอมไถนา”

 

ติดตามข่าวสารทุกวงการมวยได้ที่ muaytoday.com

แทงมวยออนไลน์ ราคาน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย

ข่าวมวย ล่าสุด