บอสชาตรี ตอบชัดๆ มีโอกาสร่วมงาน เสี่ยโบ๊ท อีกรอบหรือป่าว…?

บอสชาตรี ตอบชัดๆ มีโอกาสร่วมงาน เสี่ยโบ๊ท อีกรอบหรือป่าว…? จากประเด็นที่เสี่ยโบ๊ท ออกมาเผยว่าให้นักมวยตัวเองนั้นสามารถไปชกวันได้ จนกลายเป็นประเด็นให้ได้มีการไปถาม บิ๊กบอสชาตรี ศิษย์ยอดธง อนาคตONE มีโอกาสร่วมงานกับ เสี่ยโบ๊ท อีกรอบหรือป่าว…? ซึ่งบิ๊กบอสก็ได้พูดถึงประเด็นนี้ว่า ก็เขาดึงนักมวยออกไปเอง  ONE ไม่เคยกีดกันนักมวยไม่ว่าจะอยู่ในศึกในสายไหน ONE พร้อมอยากจะทำงานกับทุกคน สำหรับเป้าหมายของ ONE ไม่ได้ดูแค่นวมเล็กหรือนวมใหญ่ หรือ 3 ยกหรือ 5 ยก ทั้งหมดนี้คือเรื่องเล็ก

สิ่งสำคัญที่สุดอยากให้นักมวยโชว์แม่ไม้มวยไทยออกมาให้ดีที่สุด การโชว์แม่ไม้มวยไทยจะสร้างสีสันให้คนทั่วโลกได้ตะลึง ถ้าเราสามารถโชว์แม่ไม้มวยไทยให้คนทั่วโลกได้รับรองว่า ต่างชาติจะเข้ามาสนับสนุน และจะมาลงทุนทำให้มวยไทยพัฒนาไปยิ่งขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจมันจะดีขึ้น  แล้วคนไทย 70 ล้านคนจะมีฮีโร่เป็นแรงบันดาลใจ 

ซึ่งเป้าหมายของ ONE อยากให้ทุกคนพัฒนาด้วยกัน เราเปิดตลาดให้ทั่วโลกให้คนทั่วโลกเข้ามาได้เห็นแบบว่าเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น 3 ยกหรือ 5 ยก ทุกคนมีสิทธิ์ได้มา แล้วมันจะทำให้การดูมวยนั้นมันเติบโตแบบก้าวกระโดด จากที่เคยดูอยู่แล้ว ก็สามารถสร้างการตลาดให้มันใหญ่โตได้มากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า ส่งผลทำให้มวยไทยจะใหญ่โตไปทั่วโลก ONE อยากจะช่วยทุกคน ไม่อยากดูถูกใครแล้วไม่อยากเอาเปรียบใคร 

สิ่งที่ผ่านมาสาเหตุที่ เสี่ยโบ๊ท ดึงออกในมุมมองของบิ๊กบอส อาจจะใจร้อนไปหน่อย อาจจะตัดสินใจผิดพลาดไป อาจยังไม่เข้าใจเป้าหมายว่า ONE จะทำอะไร ในมุมมองคิดว่าเสี่ยโบ๊ทอาจจะคิดอย่างนั้นซึ่งเป็นมุมมองของบิ๊กบอสเองอาจจะผิดก็ได้ แต่สำหรับความคิดส่วนตัวแล้วเสี่ยโบ๊ทเป็นคนที่เก่ง และเป็นคนดีมาก ไม่เคยคิดว่าร้ายเลย แต่เขาตัดสินใจดึงออกอันนี้ก็ต้องยอมรับ

แต่สิ่งที่สำคัญมากคือว่า ONE อยากให้อุตสาหกรรมมวยไทย และศิลปะทั่วโลก หลังเราเปิดการตลาดจะทำให้วงการศิลปะการต่อสู้มันยิ่งใหญ่มากขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะมีนักธุรกิจทั่วโลกมาลงทุนที่เมืองไทยและสร้างผลกำไรให้ประเทศไทย มันจะส่งผลให้ทำให้ค่ายมวยนั้นได้มีลูกค้า หลังจากที่เดินทางไปทั่วโลกปัจจุบันนี้ค่ายมวยไทย มีการเติบโตมากกว่า 100% 200% 300% 500% ทั่วโลกย้ำว่าทั่วโลก มันส่งผลทำให้หัวหน้าค่ายดีใจเป็นอย่างมาก แล้วจะส่งผลมาถึงเมืองไทยด้วย 

ทั้งนี้ยังส่งเสริมเรื่องเงินค่าชกมวยที่มากขึ้นอีกด้วย นี่มันแค่ ONE ที่แรกเท่านั้นนะ สิ่งสำคัญที่อยากให้ทุกคนรู้นั่นก็คือว่าผมรักมวยไทยเป็นอย่างมาก ผมรักประเทศไทย ผมรักคนไทย ผมจริงใจผมเป็นคนซื่อสัตย์ ผมทำงานหนักมาก พนักงานทุกคนรู้ว่าผมเป็นคนดุมาก ซึ่งเหตุผลที่ต้องดูเหตุผลนั่นก็คือ ผมอยากช่วยประเทศเรา ถ้าผมไม่เป็นบอสที่ดุ ทุกคนอาจจะไม่ตามแล้วไม่เป็นระเบียบ ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะไม่เรียบร้อยอย่างที่เราเห็น พอเป้าหมายอยากให้มวยไทยเป็นกีฬาระดับโลกที่แท้จริง 

พร้อมยืนยันว่า ONE พร้อมจะทำงานกับทุกคนไม่ใช่แค่เมืองไทยแต่ทั่วโลก ONE เป็นบริษัทการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุด ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น MMA มวยไทย Kick boxing หรือมวยปล้ำ ผมอยากจะทำงานกับสุดยอดของสุดยอดที่สุดจริงๆ  นักมวยที่เป็นสุดยอด ค่ายมวยที่เป็นสุดยอด แล้วโปรมอเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความเป็นน้ำใจกับผมด้วย เพราะเขานั้นช่วยONE โดยเป้าหมายของเรานั่นก็คือเราต้องร่วมมือกัน ไม่ใช่อิจฉากัน  ไม่ใช่ปิดกั้นใคร ถ้าเรามีนิสัยแบบนั้นเราจะโตด้วยกันไม่ได้ สำหรับประเทศเรา เป้าหมายคืออยากจะทำงานกับทุกคนแค่นั้น 

ทั้งนี้ในอนาคตต้องจับตามองสำหรับ บอสใหญ่ของONE เผยแผนงานในอนาคตเตรียมขยายงานใหญ่ขึ้นโดยเล็งสถานที่ให้ใหญ่กว่าเวทีมวยลุมพินี เพื่อให้ได้รับการยอมรับมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งมีสิทธิ์อาจจะไปจัดที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ในอนาคตก็เป็นได้ ซึ่งโดยทางด้าน บอสชาตรี ยังเผยอีกว่า ในช่วงปลายปีนี้เตรียมที่จะไปจัดมวยที่จีน และญี่ปุ่น ซึ่งก็ได้เริ่มประสานงานกับทีมงานทั้ง2ประเทศเอาไว้แล้ว ทั้งนี้เพื่อจะเป็นการขยายงานให้กว้างมากกว่าเดิม หลังจากตลาดของONEได้รับการตอบสนองมากขึ้นด้วย

ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าค่ำวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมานศึก ONE ลุมพินี 22 ยิ่งใหญ่สมการรอคอยสำหรับการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ที่ต้องจารึกไว้บนหน้าประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาไทย โดย บิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” แจกโบนัสกระจุยกระจาย โดยจัดให้สุดยอดนักชก 9 คนที่มีผลงานเข้าตา คิดเป็นเงินรวมกว่า 7.7 ล้านบาท (เจ็ดล้านเจ็ดแสนบาท) ซึ่งนับได้ว่าศึก ONE ลุมพินี 22 ทำลายสถิติการแจกโบนัสมากที่สุด โดยมากกว่าศึก ONE ลุมพินี 9 ที่ทำยอดโบนัสไว้ 4.2 ล้านบาท