LINE : @mtdfc
ปีที่ดีที่สุด จอมบู๊ขวัญใจคนไทย “ดิ ไอรอนแมน” ย้อนเรื่องราวดีๆใต้ชายคา ONE ที่ทำให้เขาได้ทดลองทำในสิ่งที่ไม่ได้นึกฝันแล้วก็ได้บทเรียนอันมีค่าที่สุดในชีวิตนักสู้ ดิ ไอรอนแมน รถถัง จิตรเมืองนนท์ แชมป์โลก ONE มวยไทยรุ่น ฟลายเวต (135 เปรียญ) ดูย้อนถึงชีวิตตนเองทั้งปี 2565 ทั้งยังในแล้วก็นอกสังเวียนที่มีอีกทั้งเรื่องราวความตรึงใจและก็บทเรียนใหม่ที่เขาจะจำไม่ลืมเลือน
พูดได้ว่าปี 2565 เป็นปีที่ความท้าอีกขั้นของ “รถถัง” ปีที่ดีที่สุด ผู้นั่งแท่นนักมวยไทยระดับซูเปอร์สตาร์ของ ONE รวมทั้งเป็นขวัญใจของแฟนกีฬาจากทั้งโลกในฐานะนักสู้ที่มีอีกทั้งความสามารถ สไตล์การต่อยอันเป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งบุคลิกลักษณะเฉพาะที่สะท้อนความเป็นสุภาพบุรุษนักกีฬาตัวจริง
“รถถัง” เริ่มปี 2565 ด้วยความท้าครั้งยิ่งใหญ่ในศึกลูกผสมมวยไทย x การต่อสู้แบบผสมสาน (MMA) ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เพื่อสังสรรค์ครบรอบ 10 ปีของหน่วยงาน ในศึก ONE X เมื่อเดือน มี.ค.ก่อนหน้าที่ผ่านมา โดยได้โอกาสเจอหน้ากับแชมป์โลก MMA 12 ยุค “ไมตีเมาส์” ดิไม่เทรียส หน้าจอหันสัน หรือ “นักจัดรายการวิทยุ” ที่ขึ้นชื่อว่าแกล้วกล้าที่สุดชั่วนิจนิรันดร์
หากแม้ผลที่ออกมา “รถถัง” จะเป็นข้างถูกดูดซึมไม่ชชันกระทั่งหลับติดอยู่เวที แม้กระนั้นเจ้าตัวก็ชูให้เป็นไฟต์สุดชอบใจที่จะอยู่ในความจำตลอดกาล เนื่องจากว่าเป็นไฟต์ที่เขากล้าที่จะก้าวผ่านความหวาดกลัวรวมทั้งออกมาจากกรอบเดิมๆมาทดลองสู้ในแบบ MMA เป็นครั้งแรกในชีวิต ภายหลังซุ่มซ้อมวิชารากฐานอยู่ร่วมปี
แม้ว่าจะทราบว่าตัวเองเสียเปรียบในข้อตกลง MMA แม้กระนั้น “รถถัง” ก็ตอบรับลงแข่งขันในไฟต์ประวัติศาสตร์นี้ โดยมุ่งหมายที่จะสร้างความซาบซึ้งให้แฟนกีฬาเป็นหลักมากยิ่งกว่าจุดโฟกัสที่ผลแพ้ชนะ
“ในปีนี้ถ้าหากเกิดเรื่องการต่อสู้ สิ่งที่ประทับดวงใจผมเยอะที่สุดเป็นการที่ผมตอบรับลงแข่งขันกับตำนานอย่าง ดิไม่เทรียส ในข้อตกลงลูกผสม MMA และก็มวยไทยครับผม มันเป็นประสบการณ์ที่ผมจะจำไปตลอด ด้วยเหตุว่าเป็นการที่ผมก้าวผ่านความหวาดกลัว ได้ออกนอกกรอบตนเอง ถึงผมจะแพ้แบบหมดรูปแม้กระนั้นมันเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ผมจะเอาไปปรับแก้ตนเองในอนาคตครับผม”
ถัดมาตอนกลางปีในเดือน เดือนพฤษภาคม “รถถัง” อ้าแขนรับความท้าอีกรอบ โดยตกลงใจกระโดดจากบัลลังก์มาลงร่วมกลุ่มการประลอง ONE มวยไทย เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นฟลายเวต (135 เปรียญ) เพื่อพิสูจน์ตัวว่าเขาเป็นแชมป์โลกผู้ไม่มีใครสู้ได้ของรุ่นนี้อย่างไม่เรื่องที่น่าสงสัย
แม้กระนั้นโชคร้ายที่ถึงแม้ “รถถัง” จะผ่านรอบแรกฉลุยมาถึงรอบรองชนะเลิศ แม้กระนั้นก็เกิดเหตุสุดวิสัย ทำน้ำหนักและก็ระดับน้ำภายในร่างกายไม่ผ่านมาตรฐานของ ONE เขาก็เลยจะต้องถอนตัวจากการประลองไปตามระเบียบกฎเกณฑ์
แม้ว่าจะผิดหวังเล็กๆที่ชวดเข้าชิงสายรัดเอวเงิน แต่ว่า “รถถัง” ก็สามารถจบท้ายปีอย่างงดงามด้วยการกลับมาคุ้มครองตำแหน่งแชมป์โลกได้เสร็จเป็นครั้งที่ 4 จาก “โจเซฟ ลาสิรี” กษัตริย์มวยไทย รุ่นสตรอคอยว์เวต (125 เปรียญ) ที่ชาญชัยขึ้นมาท้าทายชิงสายรัดเอวในรุ่นใหญ่มากยิ่งกว่า
ความมีชัยเหนือ “โจเซฟ” ส่งให้ “รถถัง” นั่งบัลลังก์แชมป์ต่อเป็นยุคที่ 5 พร้อมสถิติ 11 ไฟต์ไม่มีพ่ายแพ้ในข้อตกลงมวยไทย โดยยังไม่มีผู้ท้าแข่งผู้ใดกันดึงเขาลงจากบัลลังก์ได้แม้กระทั้งผู้เดียว
ผลงานอันเหมาะสมที่สุดของ “รถถัง” ส่งผลให้เกิดข่าวดีส่งท้ายปีที่ทำให้เขา รู้สึกหายเหน็ดเหนื่อยรวม ทั้งเกิดกำลังใจปฏิบัติภารกิจนักกีฬาอย่างเต็มที่ โน่นเป็นการที่ บิ๊กบอส “ชาตรี ลูกศิษย์ยอดธง” ประกาศขึ้นค่าตอบแทนให้กับนักมวยระดับแชมป์โลกซึ่งรวมทั้ง “รถถัง” ด้วย
“หากแม้ผมจะแอบผิดหวังหน่อยเดียวที่มิได้ชิงเข็มขิดสีเงิน แม้กระนั้นช่างเถอะครับผม ผมคุ้มครองตำแหน่งแชมป์โลกของผมถัดไปได้ และก็ยิ่งมีข่าวสารขึ้นค่าจ้างมันก็ดีแล้วมากมายๆเลยขอรับ
จริงๆสำหรับผมทุกๆอย่างมันดีมาตั้งแต่ตอนแรกที่ผมเข้า ONE แล้วนะครับ จากที่ไม่ทราบหน่วยงานนี้มาก่อน จวบจนกระทั่งตอนนี้ผมได้เป็นแชมป์โลกในเวทีนี้ ONE ทำให้ผมมีทุกๆสิ่งทุกๆอย่างถ้าเกิดมิได้ต่อยตรงนี้ ผมเองก็ไม่ทราบว่าผมจะมีเงินอุปถัมภ์ครอบครัวได้ถึงเมื่อไร ผมจะได้มีรถยนต์ มีบ้านของตนตอนไหน แต่ว่าช่วงนี้ผมมีทุกๆสิ่งทุกๆ อย่างแล้วขอรับ”
สรุปแล้วทีนี้คือปีนี้เป็นปีที่ดีเลิศของผม เป็นปีที่จังหวะที่เปิดกว้าง ทำให้ผมได้ทำอะไรใหม่ๆได้โอกาสดีๆเข้ามา ทำให้ผมได้ดูแลครอบครัวอย่างดีเยี่ยม และก็มีเวลาได้สนิทสนมกัน เสวนากันเยอะขึ้นด้วยนะครับ
สำหรับวัตถุประสงค์ถัดไป ผมก็ต้องการจะปฏิบัติหน้าที่นักกีฬาให้สุดกำลัง ต้องการทดลองให้ครบทุกข้อตกลง ทั้งยังมวยไทย คิกบ็อกซิ่ง และก็ MMA รวมทั้งต้องการจะครองแชมป์โลก ONE ให้ได้นานที่สุด นอกเหนือจากนั้น ผมก็ขอดูแลบิดามารดาแล้วก็ครอบครัวให้พอมีพอกินรวมทั้งอยู่สบาย ชีวิตผมมีเพียงเท่านี้ ซึ่งปีถัดไปผมก็มั่นใจว่า จะเป็นปีที่ดีของผมอีกเหมือนกันนะครับ”
ในปี 2566 “รถถัง” มีความท้าครั้งสำคัญรออยู่ เมื่อเขาวางเป้าฝ่าในทางคิกบ็อกซิ่ง เพื่อล่าสายรัดเอวอีกเส้นมาถือครองให้ได้ โดยด่านแรกที่เขาจำต้องผ่านเป็นการพบกับนักต่อยคิกบ็อกซิ่ง “แดเนียล พูเครื่องปรับอากาศตัส” ในศึก ONE FIGHT NIGHT 6: ซุปเปอร์บอน vs ชิงกิซ ที่จะถ่ายทอดสดจากอิมแพ็ค อารีที่นา เมืองทองคำเมือง ในตอนพนาม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับตอนเช้า 08.00 น. ของวันเสาร์ที่ 14 เดือนมกราคม 66
ติดตามข่าวสารทุกวงการมวยได้ที่ muaytoday.com
แทงมวยออนไลน์ ราคาน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย
