สร้างแรงกระตุ้น “ฉลามเสือ” หากชนะคว้าแชมป์ได้ ค่ายจะยกรางวัลให้หมด

สร้างแรงกระตุ้น เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศมวยรอบปูนเสือครั้งที่ 20 สมความมุ่งมั่นตั้งใจสำหรับ ฉลามเสือ นายกเอท่าศาลา ซึ่ง นัดชิงชนะเลิศ จะพบกับ ปราบพิภพ เอราวัณ ความคืบหน้าล่าสุดทางด้าน ตู่ ส.โชคมีชัย ที่ควบคุมดูแลการฟิตซ้อมได้กล่าวเปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวว่า

เวลานี้ ฉลามเสือ เก็บตัวฟิตซ้อมเตรียมความพร้อมที่ค่ายมวย ย่านรามคำแหง กทม. โดยซ้อมเบาๆ เรียกว่าเป็นการเตรียมร่างกายให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลาโดยการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในระลอกที่ 2 ทำให้กำหนดการชิงชนะเลิศในวันที่ 31 ม.ค. ต้องถูกเลื่อนออกไปไม่มีกำหนดจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงด้วยดี

สำหรับความั่นใจในการชกครั้งนี้ทางด้าน ตู่ ส.โชคมีชัย ได้กล่าวเปิดใจว่า มาถึงขั้นนี้แล้วเราก็ตั้งความหวังไว้มากนะ จริงอยู่แม้ว่าจังหวะของเราจะเป็นรอง แต่ผลงานที่ผ่านมาฉลามเสือก็ถือว่าทำได้ดี

ไฟต์นี้คือไฟต์ตัดสินฉะนั้นเราสู้เต็มที่อยู่แล้วแพ้ชนะถึงกีฏาแน่นอน สำหรับเงินรางวัลนั้นทาง “นายกเอ ท่าศาลา” ชวลิตร อภินันท์ ท่านได้บอกกับผมว่า ให้ผมจัดการเลย โดยให้อิสระอย่างเต็มที่ ซึ่งผมเองก็ได้เรียนกับท่านนายกเอ

แล้วว่าเงินรางวัลจะยกให้เด็กทุกบาททุกสตางค์โดยไม่มีการหักเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับฉลามเสือ ซึ่งทางท่านนายกเอ ก็เห็นดีด้วยทุกประการ นอกจากเงินรางวัลที่ไม่หักแล้วในส่วนของพรรคพวกผมก็ได้ประสานไว้แล้วเช่นกัน

โดยตอนนี้ยอดเงินรางวัลอัดฉีดนอกเหนือจากเงินรางวัลต้องมีเกินแสนบาทแน่นอนไม่นับรวมทองคำที่ พี่ชู ทางด่วน จะมอบให้อีก เชื่อว่าตรงนี้เกมนัดชิงต้องสนุกเข้มข้นแน่นอน สำหรับฉลามเสือที่ผ่านมาเราไม่ได้หักค่าตัวเขาเลย ชกมาได้เท่าไหร่ ได้รางวัลพิเศษเท่าไหร่ยกให้ทั้งหมด ซึ่งตัวเด็กเองก็มีความกตัญญูนะนำเงินทั้งหมดไปปลูกสร้างบ้านหลังใหม่ให้พ่อแม่อยู่อาศัยที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช บ้านเกิด ซึ่งตอนนี้ใกล้จะแล้วเสร็จ ถ้าหากคว้าแชมป์อีกถือว่าได้รางวัล 2 ต่อก็แล้วกัน ซึ่งก็น่าชื่นชมในตัวเขา และน่าจะเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับนักมวยทั้งหลายที่ประพฤติปฏิบัติตัวเป็นคนดี อีกทั้งมีความกตัญญู ใช้จ่ายเงินอย่างมีคุณค่าทุกอย่างเกิดจากมวยล้วนๆ”