muaytoday LINE : @mtdfc
muaytoday
วันที่ 17 เมษายน 2024 2:16 AM
muaytoday
muaytoday
หน้าหลัก » ข่าวมวย » สามเอ ไก่ย่างห้าดาว 30 ปีเส้นทางมวย ถึงยุคตัดสินจะรุ่ง หรือถูกรุ่นใหม่มาแทน

สามเอ ไก่ย่างห้าดาว 30 ปีเส้นทางมวย ถึงยุคตัดสินจะรุ่ง หรือถูกรุ่นใหม่มาแทน

อัพเดทวันที่ 19 กรกฎาคม 2021 เข้าดู 117 ครั้ง

สามเอ ไก่ย่างห้าดาว อีกหนึ่งสุดยอดนักชกแห่งตำนานที่คนไทยนั้นรู้จักกันอย่างดี แล้วปัจจุบันนี้แฟนมวยทั่วทิศทั่วประเทศ ต่างยกย่องให้เขานั้นกลายเป็นอีกหนึ่งนักมวยเจ้าตำนานที่เก่งกาจที่สุดตลอดกาล โดยถ้าหากถ้าจะเทียบแบบว่าแบบปอนด์ต่อปอนด์  อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุด ต้องยอมรับว่าเขานั้นคืออีกหนึ่งคนผู้สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาคนเดียวใน วัน แชมเปียนชิพ ที่ได้ครองเข็มขัดแชมป์โลก ONE มาแล้วถึง 3 เส้น เท่านั้นยังไม่พอเพราะว่าปัจจุบันนี้เจ้าตัวยังเป็นอีกหนึ่งเจ้าของแชมป์โลก ONE มวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต ที่ยังไม่เคยแพ้ใครในรุ่น อีกด้วย

 

อย่างไรก็ตามอีกสิ่งหนึ่งที่น่าคิดมากนั่นก็คือการเกิดใหม่ของนักชก และอีกคนหนึ่งที่ถูกตามองมากที่สุดดูเหมือนจะเป็นน้องใหม่ไฟแรง  “พระจันทร์ฉาย พี.เ.ค.แสนชัยมวยไทยยิม” ที่ปัจจุบันนี้ต้องยอมรับจริงๆว่ามาแรงแซงทางโค้งแซงทุกคนในแรงกิง  ซึ่งการันตีด้วยผลงานไม่ว่าจะเป็นศักดิ์ศรีและดีกรีแชมป์ที่สั่งสมในสังเวียนประเทศไทยมามากมาย จนปัจจุบันนี้เซียนมวยต่างรู้ดีว่าเข้านั้นคืออีกหนึ่งคนที่เก่งกาจที่สุดในรุ่นน้ำหนักของตัวเองชนิดที่หาใครเทียบยาก และสิ่งสำคัญที่สุดนั่นก็คือการที่เขานั้นประกาศท้าทายบารมีรุ่นพี่เจ้าตำนาน ที่ประกาศลั่น พร้อมจัดหนักจัดเต็มพร้อมรบในศึกใหญ่กลางปีที่มีชื่อว่า ONE: BATTLEGROUND ศุกร์ 30 กรกฎาคมนี้  โดยมีเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวตเป็นเดิมพัน

สามเอ ไก่ย่างห้าดาว

ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าเส้นทาง สามเอ ในรอบ 3 ทศวรรษ ที่สะสมมาอย่างยาวนานไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จที่สั่งสมมา คือศักดิ์ศรีที่เขาแบกไว้ชนิดแบบว่าหนักอึ้งที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาไม่ใช่ใครที่จะแย่งชิงเข็มขัดไปได้ง่ายๆ ยอมรับจริงๆว่ามองไม่ออกเลยทีเดียวว่าตำนานยอดมวยที่สร้างชื่อมาตลอดชีวิต จะสืบสานความรุ่งเรืองต่อไป หรือถึงเวลาที่รุ่นใหม่จะก้าวขึ้นมาแทน

 

การจะมาถึงจุดนี้ต้องยอมรับว่าล้มลุกคลุกคลานมาก สามเอ ต้องยอมรับจริงๆว่าชะตาของชีวิตของเขานั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้หากมองไปแล้วชีวิตเขานะไม่ต่างอะไรกับ เพื่อนนักมวยคนอื่นที่ต้องปากกัดตีนถีบเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเลี้ยงตัวเองเและครอบครัว ประวัตินั้นเจ้าตัวเริ่มชกมวยรู้จักศิลปะการต่อสู้นี้มาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ในค่ำคืนที่ไม่มีวันลืมนั่นก็คือการที่เขานั้นได้มีโอกาสครั้งสำคัญกับการที่ได้ไปเที่ยวงานวัดแถวบ้าน โปรโมเตอร์จัดมวยประกาศหาเด็กที่มีน้ำหนักราว ๆ เดียวกับเขา สามเอ ซึ่งไม่เคยฝึกฝนวิชามวยไทยมาก่อน ยกมือขึ้นในทันที และนั่นเองคืนต้นกำเนิดให้เขานั้นกลายเป็นนักมวย และกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ดีไปตลอดกาล

 

โดยเริ่มแรกแค่ยกแรกเมื่อกรรมการให้สัญญาณเริ่มชกทางด้าน เด็กน้อย 9 ขวบ สามเอ สู้ยิบตา มือเท้าออกอาวุธพัลวัน เรียกได้ว่าฉายแววตั้งแต่ตรงนั้นโดยฝีไม้ลายมือนั้นต่อสู้จนทำเอาคู่ต่อสู้ร่วงลงไปให้กรรมการนับ 8 ในยกสอง แน่นอนว่าหลังจากนั้นทางด้าน สามเอ ได้รับการชูมือพร้อมรับเงินค่าตัวครั้งแรกเป็นจำนวน 100 บาท แต่เส้นทางนี้มันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะหลังจากไฟต์นั้น 2-3 วันต่อมาเหมือนได้รู้ได้เห็นถึงความจริง สามเอ เจอของจริงจนได้ลิ้มรสความพ่ายแพ้  จนทำให้รู้ว่าชีวิตตัวเองนั้นต้องฝึกฝนให้มากกว่านี้ อย่างไรก็ตามทางด้านพ่อแม่ที่ไม่สนับสนุนให้ชกมวยแต่แรก สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อพ่อแม่ถามว่ายังจะชกอยู่อีกไหม สามเอ บอกอยากชกต่อ พ่อแม่จึงให้ไปฝึกฝนอย่างถูกวิธี และแน่นอนว่าหลังจากนั้นใครจะไปเชื่อว่าด้วยพรสวรรค์บวกพรแสวงในเวลาไม่กี่ปี สามเอ ก็สั่งสมกระดูกมวยจนผ่านการชก 100 ไฟต์อย่างรวดเร็ว และเข้าสู่การเป็นมืออาชีพอย่างเต็มตัวจนถึงทุกวันนี้

สามเอ ไก่ย่างห้าดาว

และความขยันมุ่งมั่นแบบนี้เองทำให้เขานั้นหลังสะสมประสบการณ์อยู่ในเวทีมวย สามเอ ผ่านศึกมาแล้วมากมายไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่เหนือจรดใต้หลากหลายรุ่นน้ำหนัก แต่การที่เขานั้นจะได้เข็มขัดแรกมาคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยทีเดียวเพราะต้องอาศัย ประสบการณ์จนถึงอายุล่วงเลยจนถึงอายุ 21 ปี อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นก็จัดหนักจัดเต็ม สามเอ เขาได้เป็นเจ้าของเข็มขัดมากมายไม่ว่าจะเป็น เข็มขัดแชมป์สถาบันหลักทั้ง  แชมป์ราชดำเนิน,แชมป์ลุมพินี, แชมป์ประเทศไทย ซึ่งถ้าหากนับแล้วรวมทั้งหมดมากถึง 6 เส้น เลยทีเดียวซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่นักมวยคนหนึ่งนั้นจะสามารถทำได้ เท่านั้นยังไม่พอยังได้รับรางวัลเกียรติยศในฐานะนักมวยยอดเยี่ยมของสยามกีฬาอวอร์ดสองปีซ้อน (พ.ศ.2553 – 2554)

 

ถึงแม้ว่าจะมีช่วงชีวิตที่ดีมาตลอด ชกมวยมาตลอดชีวิตแต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยลืมนั่นก็คือครั้งหนึ่งทางด้าน สามเอ เคยใช้ชีวิตแบบว่าตกต่ำมากกับการที่เขานั้นหันจากการชกมวยไปทำงานเป็นการทำงานแบบว่าช่างก่อสร้าง แต่ยังไงชีวิตก็เป็นแบบนี้ต้องมีขึ้นแล้วก็มีลงโดยสาเหตุหลักนั้นทางด้านภายในค่ายไม่มีเทรนเนอร์ ไม่มีคู่ซ้อม ต้องซ้อมอยู่คนเดียว และสิ่งสำคัญที่สุดที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นนั้นก็คือเขาได้ตัดสินใจหันหลังให้วงการผืนผ้าใบ

และเรียนรู้ว่าชีวิตนอกวงการมวย โดยชีวิตนั้นตื่นตั้งแต่เช้า 04:30 น ต้องนั่งรถเมล์ไปทำงานเลิกสามทุ่ม มีเงินซื้อข้าวถุงละ 5 บาท แกงอีก 10 บาทก็ถือว่าหรูแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเจ้าตัวจำไม่มีลืมถึงกับหลั่งน้ำตากับช่วงเวลาที่ลำบากที่สุดในชีวิต อย่างไรก็ตามการดำเนินชีวิตนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแล้วหลังจากนั้นก่อนที่เขานั้น สามเอ จะตัดสินใจหวนคืนสังเวียนอีกครั้งภายใต้สีเสื้อใหม่ “ไก่ย่างห้าดาว” ในราวปี 2554

แต่ชีวิตนั้นมันไม่ง่าย และไม่มีอะไรได้มาอย่างง่ายๆ เพราะหลังจากนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าเขานั้นประสบปัญหาครั้งใหญ่นั่นก็คือ ช่วงปีหลัง ๆ สามเอ ประสบปัญหาบาดเจ็บเรื้อรัง และแพ้ติดต่อกันหลายไฟต์ และการบาดเจ็บในครั้งนั้นทำให้เขาถึงกับเกือบจะถอดใจท้อแท้ในชีวิต จนตัดสินใจหันหลังให้สังเวียนมวยในปี 2559 แล้ว แต่อย่างไรก็ตามความเป็นมวยนั้นมันอยู่ในจิตวิญญาณเขาก็ยังคงหาทางผันตัวไปเป็นครูฝึกสอนที่ยิมอีโวลฟ์ชื่อดังในสิงคโปร์

สามเอ ไก่ย่างห้าดาว

ถึงแม้ว่าจะทำงานอะไรไปแต่สิ่งหนึ่งที่มันหนีไม่พ้นนั่นก็คือการมีไฟของความเป็นนักสู้ที่มันอยู่ในตัวของเขามาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และความเป็นนักสู้และไฟที่มันลูกทัวร์อยู่ในใจนั่นเองจนทำให้เขานั้นได้รับฉายา “ซ้ายไฟลามทุ่ง” ตลอดชีวิต อย่างไรก็ตามสิ่งทำให้เขาเขียนอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือการที่เขานั้น ได้เห็นความสำเร็จของเจ้าตำนานรุ่นพี่ร่วมวงการอย่าง “เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค” ที่เคยเป็นถึงแชมป์โลก ONE รุ่นสตรอว์เวต สามเอ ซึ่งถูกชักชวนให้หวนคืนสังเวียน อีกครั้ง มันทำให้ใจของเขานั้นมันลุกช่วยขึ้นมาอีกครั้งและไม่ลังเล ที่จะสวมบนบ้านเดิมนั่นก็คือการเป็นนักสู้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของตำนานบทใหม่ที่เขาได้สร้างไว้บนเวทีระดับโลกตั้งแต่ปี 2561

เปิดประเดิมได้อย่างสวยงาม สามเอ ขึ้นเวทีชกครั้งแรกใน วัน แชมเปียนชิพ มกราคม 2561 และโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นกับศิลปะมวยไทยที่มันอยู่ในตัวของตัวเองและสามารถ ประเดิมขอเป็นนักสู้ด้วยสวยงามโดยการชนะน็อกคู่ต่อสู้ชาวอิตาลี “โจเซฟ ลาซิรี” ไปแบบไร้ข้อกังขา ก่อนจะได้รับโอกาสขึ้นชิงแชมป์โลกกับ “เซอร์จิโอ วีลเซ่น” และสามารถคว้าชัยสถาปนาขึ้นเป็นแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต คนแรกของรายการในเดือนพฤษภาคม

 

ที่เจ้าตัวนั้นจะลาหายจากเวทีไปนานเกือบ 1 ปีเต็ม แล้วหลังจากนั้นก่อนจะมาป้องกันแชมป์โลกเป็นครั้งแรก และการกลับมาในครั้งนี้นั้นต้องสร้างความผิดหวังให้กับตัวเป็นอย่างมากเพราะต้องเสียเข็มขัดให้ “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” ที่มีทั้งความหนุ่มสด ฝีมือดี และมีความกระหายอย่างเปี่ยมล้นที่จะปล้นความสำเร็จ จากเข้าไป อย่างไรก็ตามหัดมองอย่างละเอียดแล้ว สาเหตุที่แพ้นะอาจจะมาจากรุ่นฟลายเวต (56.8 – 61.2 กก.) ซึ่ง สามเอ ชกอยู่นั้นใหญ่กว่าน้ำหนักธรรมชาติของเขา แต่ตอนนั้น วัน แชมเปียนชิพ ยังไม่มีรุ่นที่เล็กกว่า ก่อนจะมีการเปิดรุ่นสตรอว์เวต (53.3 – 56.7 กก.) สามเอ จึงขอลดรุ่นน้ำหนักลงมา โดยจัดน็อกเอาต์ตั้งแต่ไฟต์แรกแก่นักมวยชาวฝรั่งเศส “ดาเรน โรลลอง” ในเดือนตุลาคม 2562

 

อย่างไรก็ตามล่าสุดเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมากสำหรับ ต.ค. 63 นี้ทางด้าน สามเอ กำลังจะเปิดศึกป้องแชมป์โลก กับผู้ท้าชิงอันดับหนึ่งของแรงกิง “จอช ทอนนา” นักชกจากออสเตรเลีย ที่ปัจจุบันนี้คลองบัลลังก์ไว้อย่างเหนียวแน่นเหลือเกิน โดยจัดน็อกคู่แข่งในยกที่ 3 ประกาศศักดาแชมป์โลกผู้ไม่เคยแพ้ใครต่อเนื่อง 4 ไฟต์ในรุ่นของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าจับตามองมากสำหรับไฟท์นี้ว่าแชมป์โลกของคนไทยที่ปัจจุบันนี้ของแชมป์วงการมวยมาอย่างยาวนานร่วม 30 ปี ประสบการณ์โชกโชน ผ่านศึก 400 ไฟต์ ในวัย 37 ปี จะสามารถสืบสานเส้นทางแห่งความรุ่งเรืองต่อไปเป็นไฟต์ที่ 5 ในรุ่นสตรอว์เวตได้หรือไม่ หรือจะถึงเวลาที่จะต้องให้นักมวยรุ่นใหม่ขึ้นมาแทนที่ 30 กรกฎาคมนี้มีคำตอบรออยู่

 

ติดตามข่าวสารทุกวงการมวยได้ที่ muaytoday.com

แทงมวยออนไลน์ ราคาน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย

 

ข่าวมวย ล่าสุด