muaytoday LINE : @mtdfc
muaytoday
วันที่ 27 เมษายน 2024 8:20 AM
muaytoday
muaytoday
หน้าหลัก » ข่าวมวย » อนาคตมวยไทยสดใส หลังวุฒิสภาผลักดันสถาบันมวยไทยหลักสูตรในสถานศึกษา

อนาคตมวยไทยสดใส หลังวุฒิสภาผลักดันสถาบันมวยไทยหลักสูตรในสถานศึกษา

อัพเดทวันที่ 28 พฤศจิกายน 2022 เข้าดู 17 ครั้ง

อนาคตมวยไทยสดใส หลังกีฬาวุฒิสภา จะผลักดันสถาบันมวยไทยหลักสูตรในสถานศึกษา เป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว กับการพัฒนาเพื่อจะผลักดันให้มวยไทย นั้นอยู่ในหลักสูตรการศึกษา ทราบกันดีว่าปัจจุบันนี้มวยไทย นั้นเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่ยังไม่ได้บรรจุ อยู่ในการศึกษาของประเทศไทยโดยล่าสุดนี้ทางด้าน คณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา นำโดย พลเอก สุรเชษฐ์  ชัยวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการ ได้จัดการสัมมนา เรื่อง “การส่งเสริมและพัฒนากีฬามวยไทยในคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา” ณ โรงแรมเดอะ คาวาลิ คาซ่า รีสอร์ท จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 26 – 27 พ.ย.65  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ

  1. สรุปผลการดำเนินงานการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยของคณะกรรมาธิการในห้วงเวลาที่ผ่านมา

 

  1. ศึกษาแนวทางการดำเนินการส่งเสริมมวยไทยในมิติเพื่อการอนุรักษ์

 

  1. ศึกษาแนวทางส่งเสริมมวยไทยในมิติทางศิลปวัฒนธรรม

 

  1. ศึกษา รวบรวมข้อมูล ข้อคิดเห็น ปัญหา อุปสรรคเกี่ยวกับมวยไทยในทุกมิติ

 

โดยรายละเอียดของการจัดสัมมนาเป้าหมายในครั้งนี้นับว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เพราะมีกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมสัมมนา ประกอบด้วย กรรมาธิการ คณะทำงาน ผู้ทรงคุณวุฒิและนักวิชาการด้านมวยไทย และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยการสัมมนาในช่วงเช้า เป็นการอภิปรายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นใน 2 ประเด็น คือ 1. การจัดตั้งสถาบันมวยไทยแห่งชาติ และ 2. การพัฒนาหลักสูตรมวยไทยในสถานศึกษา ต่อจากนั้นในช่วงบ่าย เป็นการอภิปรายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นใน ประเด็นเกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์มวยไทยท้องถิ่น

ในการประชุมครั้งนี้ต้องยอมรับเลยว่าทางด้าน คณะกรรมาธิการจะมีการรวบรวมข้อมูล และความคิดเห็นต่าง ๆ ที่ได้รับจากการสัมมนา เพื่อนำไปวิเคราะห์ สังเคราะห์และดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ และอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติต่อไป

โดยทางด้าน พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ กล่าวอีกว่า มิติด้านการอนุรักษ์ ก็ได้มีการพิจารณาศึกษาได้มีข้อเสนอเรื่องการจัดตั้งศูนย์มวยไทย ท้องถิ่นและส่งเสริมให้มวยไทยได้เป็น ตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อองค์การยูเนสโก จึงได้เชิญอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรมมาร่วมเป็นวิทยากร ในการสัมมนาเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้มีความเข้าใจ และมีส่วนร่วมในการผลักดันเพื่อให้ เกิดการอนุรักษ์มวยไทยอย่างแท้จริง  สำหรับการประชุมครั้งนี้นั้นทางด้านคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภาจะดำเนินการตามอำนาจและหน้าที่ ทางด้านนิติบัญญัติเพื่อให้เกิด ผลสัมฤทธิ์และเกิดประโยชน์ต่อ วงการมวยไทยอันเป็นภูมิปัญญาของชาติต่อไป

 

ปัจจุบันนี้ต้องยอมรับเลยว่ามวยไทยนั้น เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ได้ค่าจ้าง ซึ่งต้องยอมรับเลยว่ามากเลยทีเดียว นักมวยไทยอาชีพ เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ทำรายได้ให้กับนักมวย ค่ายฝึกมวย โปรโมเตอร์ และก็เวที มาอย่างช้านาน นักมวยเด็ก ต่อยตามงานวัด งานจารีตต่างๆตามบ้านนอกนั้น ค่าจ้างโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ไฟต์ละ 300-2,000 บาท ตามแต่ประสบการณ์ ตามแต่กระดูกมวยที่สั่งสมมา รายได้ดังกล่าวข้างต้นจะถูกค่ายฝึกมวยหักเปอร์เซนต์ออกไปตามแต่ตกลงกัน เพื่อเป็นค่าดูแลปลุกปั้นนั้นเอง

 

ว่ากันว่าค่าจ้างนักมวยไทยอาชีพที่เป็นที่รู้จักมีชื่อเสียงนั้น ในอดีตกาลหลายปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้จะได้รับ ค่าตอบแทนเป็นอย่างมากยามขึ้นต่อยแต่ละไฟต์ ให้กับโปรโมเตอร์ต่างๆเวทีก็จะมีรายได้จากแฟนมวยอีกทั้งคนไทย แล้วก็ฝรั่ง กล่าวได้ว่า น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า นักมวยก็แฮปปี้ โปรโมเตอร์ก็แฮปปี้ สนามมวยก็แฮปปี้

แม้กระนั้นปัจจุบันนี้ว่ากันถัดไปอีกว่า บรรดานักมวยไทยมีชื่อแม้ขึ้นต่อยในประเทศไทยในยุคนี้ (พุทธศักราช 2562) อย่างเก่งค่าจ้างก็อยู่ที่ 200,000 – 250,000 บาทต่อไฟต์ เนื่องจากผู้จัดเองก็ประสบพบปัญหาขาดทุนจากยอดขายตั๋ว ยิ่งถ้าหากนำนักมวยไทยมีชื่อมาขึ้นเวทีเป็นคู่เอกของรายการนั้นๆยิ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมากขึ้นเป็นสองเท่า

ปัจจุบันนี้กลับไม่ได้รับสนับสนุนจากภาครัฐ ส่งผลให้มาไทยปัจจุบันนี้กำลังจะเกิดปัญหาโดยไม่มีความเป็นมวยไทย ซึ่งเป็นมรดกที่สืบทอดกันมายาวนาน หลังจากนี้ชีวิตนักมวยรุ่นใหม่ๆ กำลังสดใส  ปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่า บรรดายอดนักมวยไทยทั้งหลายแหล่ที่ยังต่อยอยู่ก็เลยเลือกที่จะหันเห ทางไปเซ็นสัญญาขึ้นชกต่อยต่างชาติตัวอย่างเช่น จีน, มาเก๊า, ประเทศฮ่องกง, ประเทศญี่ปุ่น อื่นๆอีกมากมาย ฯลฯ ว่ากันถัดไปอีกนั่นแหละว่า นักมวยไทยมีชื่อที่เปลี่ยนทิศทางไปขุดทองคำสังเวียนนอกประเทศนั้น โกยรายได้อย่างใหญ่โตจำพวกที่ว่าขึ้นต่อยเวทีประเทศไทย 3 ไฟต์ยังได้รายได้ไม่พอๆกับขึ้นต่อยที่เวทีเมืองนอกไฟต์เดียวเลย

 

และนี่คือเหตุผลว่าทำไมคนไทยต้องสนับสนุนในไทย ค่าตัวล่าสุดที่มีค่าตัวแพงที่สุด ค่าตัวล่าสุดที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประเทศนั้นก็คือ 1.บัว​ขาว​ บัญชา​เมฆ​ 5,000,000​บาท​(5ล้าน​บาท) อันดับล่าสุด นัก​ชก​ไทย​ ค่าตัว​สูง​ที่สุด​(รูปแบบ​มวยไทย) ปัจจุบัน 2.ซุปเปอร์​บอน​ สิงห์​มา​วิน​ 3,000,000 บาท​(3ล้าน​บาท) 3.รถถัง​ จิตร​เมือง​นนท์​ 2,500,000​บาท​(2ล้าน​5​แสน​บาท)​อนาคต​ 3ล้าน​ถึง​5​ล้าน​บาท ปีที่แล้ว 2562 สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง (1,500,000 บาท) ยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์ (1,200,000 บาท) แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม (800,000-1,000,000 บาท) “ขวัญใจนักเรียน” แสงมณี ส.เทียนโพธิ์ (500,000 บาท) “คนไม่ยอมคน” เสกสรร อ.ขวัญเมือง (400,000 บาท)

อนาคตมวยไทยคงจะต้องถูกใจยังไม่นอน ทุกสิ่งทุกอย่าง กมธ.กีฬาวุฒิสภา จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง เตรียมผลักดันสถาบันมวยไทย, หลักสูตรในสถานศึกษาและมรดกโลก ให้ได้เพราะถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง ถ้าเป็นไปได้เชื่อว่า อนาคตมวยไทยสดใส อย่างแน่นอน

 

ติดตามข่าวสารทุกวงการมวยได้ที่ muaytoday.com

แทงมวยออนไลน์ ราคาน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย

ข่าวมวย ล่าสุด